ทีมชาติอิตาลี ผ่านเข้ารอบยูโรรอบสุดท้าย เป็นครั้งที่ 10 โดยในรอบคัดเลือก พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกับ ฟินแลนด์ กรีซ บอสเนีย อาร์เมเนีย และ ลิกเตนสไตน์ และพวกเขาก็โชว์ผลงานไร้เทียมทาน เก็บชัยชนะได้ทั้ง 10 นัด แนวรุกจัดไปโหดๆ 33 ประตู
โดยเกมที่พวกเขายิงเยอะที่สุด คือเกมที่ ทีมชาติอิตาลี ไล่ถล่ม อาร์เมเนีย 9-1 และแนวรับของพวกเขาเสียไปแค่ 4 ประตูเท่านั้น ในครั้งนี้พวกเขาขนกำลังสำคัญมากันครบครัน
ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายด่านคนดังของ เอซี มิลาน จอร์โจ้ คิเอลลินี่ และ เลย์โอนาโด้ โบนุชชี่ สองกองหลังจอมเก๋า ที่จะคอยคุมแนวรับให้แข็งแกร่งตามสไตล์อัซซูรี่ ส่วนแผงมิดฟิลด์ มาร์โก แวร์รัตติ จอมทัพของ ปารีส แซงแชร์กแมง ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ยังได้รับความไว้วางใจถูกหนีบติดทีมมาด้วย
โดยหวังให้หายทันในรอบน็อคเอาท์ ขณะที่ จอร์จิญโญ่ ที่พึ่งคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนลีกกับ เชลซี และ นิโคโล บาเรลล่า กองกลางคนสำคัญของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช ซีเรียอาทีมล่าสุด ก็จะเป็นกำลังหลักของทีมอิตาลีชุดนี้
ในส่วนของแนวรุก ชิโร อิมโมบิเล่ กองหน้าวัย 31 ปี ที่พึ่งจะมาดังตอนแก่ จะเป็นเพชรฆาตในแดนหน้า โดยมี อันเดร เบล็อตติ และ เฟรดเดริโก้ เคียซ่า คอยสนับสนุน
ไล่รายชื่อกำลังสำคัญ หากทุกคนได้ติดตามกัลโช ซีเรียอา ก็ต้องบอกว่า คุ้นหนูเป็นอย่างดี แต่มันดูไม่ว้าว เหมือนกับ อิตาลี ชุดก่อนๆ ที่พอเอ่ยชื่อขึ้นมาทุกคนจะต้องรู้จัก และจัดอยู่ในระดับเกรด A+ หรือบางคน ก็จัดอยู่ในโหมดระดับโลกไปแล้ว แต่ทว่า อิตาลี ที่อยู่ในโหมดไร้ดาวดังระดับโลกเหล่านี้แหละ ที่ช่วยกันพา อิตาลี เก็บ 30 คะแนนเต็ม ยิ่งเฉลี่ย 3.3 ประตูต่อเกม ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแบบหล่อเท่สุดๆ
ส่วนเพื่อนร่วมกลุ่มในรอบสุดท้ายของพวกเขาถือว่าอันตรายพอตัว หากพวกเขาพลาดพลั้ง มีโอกาสที่พวกเขาจะไม่จบด้วย 2 อันดับแรกก็ได้
มาดูกันที่ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทีมที่มีโอกาสเบียด อิตาลี เพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูง พวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาด้วยสถิติ ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 19 เสียไป 6 ประตู และจากประตูที่เสีย ก็นั่นแหละ พวกเขามีทีเด็ดคือแนวรับอันแข็งแกร่ง ซึ่งนั่นจะเป็นจุดแข็ง ที่จะทำให้พวกเขาทำผลงานได้ดีใน ยูโร 2020 ในครั้งนี้ โดยพวกเขามี เชอร์ดาน ชากีรี่ ของ ลิเวอร์พูล และ กรานิต ชาก้า จาก อาเซน่อล คอยปั้นเกมในแดนกลาง
ทีมชาติตุรกี พวกเขาเกือบจะแย่งแชมป์กลุ่มมาจาก ฝรั่งเศส ในรอบคัดเลือกได้ ตามหลังแค่ 2 คะแนน โดยพวกเขาเก็บสถิติ ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 10 เกมในรอบคัดเลือก และที่สำคัญพวกเขาเสียแค่ 3 ประตู ผู้เล่นในชุดนี้ของพวกเขา
ค้าแข้งอยู่กับทีมดังหลายทีม ไล่ตั้งแต่ คลากลาร์ โซยุนชู กองหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ เมริห์ ดามิราล แนวรับ ยูเวนตุส ฮาคาน ซัลฮาโนกลู จอมทัพ เอซี มิลาน และยังมี บูรุค ยิลมาซ กองหน้าจอมเก๋า ที่พึ่งจะพา ลีลล์ แย่งแชมป์ลีกเอิง มาจาก ปารีส แซงแชร์กแมง
ทีมชาติเวลส์ พวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาแบบใจหายใจคว่ำ เกือบจะเป็นแชมป์กลุ่มได้ แต่ก็เกือบจะหลุดไปเป็นที่ 3 เหมือนกัน เพราะมีแต้มมากกว่า สโลเวเนีย แค่คะแนนเดียว ทีมชุดนี้รายชื่อคุ้นหูหลายคน
เพราะส่วนมากเป็นผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก แต่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ก็จะมี แกเร็ธ เบล ของ เรอัล มาดริด อารอน แรมซีย์ จาก ยูเวนตุส และ เดเนี่ยล เจมส์ แนวรุกสำรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โปรแกรมการแข่งขัน กลุ่ม A
11 มิถุนายน 2021 : อิตาลี พบ ตุรกี
12 มิถุนายน 2021 : เวลส์ พบ สวิตเซอร์แลนด์
16 มิถุนายน 2021 : ตุรกี พบ เวลส์
26 มิถุนายน 2021 : อิตาลี พบ สวิตเซอร์แลนด์
20 มิถุนายน 2021 : สวิตเซอร์แลนด์ พบ ตุรกี
20 มิถุนายน 2021 : อิตาลี พบ เวลส์
เขียนโดย : โจโฉ
หรือจะเข้าไปดูผลงานได้ ที่นี่
หรือติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ ที่นี่
#baball #ทีมชาติอิตาลี #อัซซูรี่ #ฟุตบอลยูโร 2020
ขอบคุณภาพจาก
: INN NEWS
: กรุงเทพธุรกิจ
: 90min
: MEENING
